วันพฤหัสบดี

ปราสาทโดนตวล


ที่ตั้ง
ตั้งอยู่บริเวณแนวชายแดนทิศตะวันออกเฉียงใต้ของบ้านภูมิซรอล ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ หรือบริเวณรุ้งที่ 14 องศา 24 ลิปดา 30 ฟิลิปดาเหนือ แวงที่ 104 องศา 44 ลิปดา 48 ฟิลิปดาตะวันออก (ที่มา : กรมแผนที่ทหาร มาตราส่วน 1 : 50,000 พิมพ์ครั้งที่ 1 – RTSD ลำดับชุด L 7017 ระวาง 5937 IV) หรือพิกัด UTM ที่ 48 472617 E/1592766 N สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 488 เมตร

ตำนาน/นิทานเกี่ยวกับช่องเขาโดนตวล
ภูเขาโดนตวล (ใกล้เขาพระวิหาร) เป็นที่ตั้งของปราสาทบนลานหินริมหน้าผาชัน ถัดจากเขาโดนตวลไปทางทิศตะวันตกเป็นยอดเขาประสิทธิโสมหรือสัตตะโสม ด้านทิศใต้เป็นยอดเขาต้นไทร ด้านทิศตะวันออกเป็นยอดเขาดำผกา
มีนิทานเล่ากันมาว่า กาลครั้งนั้นมีสตรีสูงศักดิ์ผู้หนึ่งรูปร่างหน้าตาสวยงาม ผู้คนเรียกชื่อนางตามลักษณะเด่นในเรือนร่าง เป็นภาษาเขมรว่า นางเนียงเด๊อะทม (คือนางถันใหญ่) เล่ากันว่านางมาจากแผ่นดินสูงคือ อาณาจักรโคตรบูร ความสวยความเด่นของนางเลื่องลือไปถึงกษัตริย์ขอม พระองค์จึงโปรดให้ขุนนางข้าราชบริพารรับนางไปราชสำนัก ทั้งๆที่นางมิได้นิยมยินดี ระหว่างทางได้พักแรม ณ ลานหินอันเป็นที่ตั้งปราสาทโดนตวลบนลานก่อนลงสู่แผ่นดินเขมรต่ำ ช่องเขานี้ได้ชื่อว่า ดอนตวล ตาเล็งซึ่งหลงใหลใฝ่ฝันในตัวนาง สู้ติดตามไปก็ถูกฆ่าตายเสียที่ป่าแห่งหนึ่งในเส้นทางลงสู่แผ่นดินต่ำ ป่าแถบนั้นจึงได้ชื่อว่า ป่าตาเล็ง

วันพุธ

ปราสาทพระวิหาร


ที่ตั้ง
ปราสาทพระวิหารตั้งอยู่บนยอดเขาแห่งหนึ่งในแนวเทือกเขาดงรัก บริเวณรุ้งที่ 14° 23' 20" เหนือ และแวงที่104° 43' ตะวันออก สูงจากระดับน้ำทะเลปานกลางประมาณ 657 เมตร บริเวณหน้าผาชันที่เรียกว่า เป้ยตาดี สูงจากพื้นที่ในเขตประเทศกัมพูชาประมาณ 547 เมตร
ก่อนที่ศาลโลกจะตัดสินให้ปราสาทพระวิหารอยู่ภายใต้อธิปไตยของประเทศกัมพูชา ปราสาทพระวิหารอยู่ในเขตท้องที่บ้านภูมิซรอล ตำบลบึงมะลู อำเภอกันทรลักษณ์ จังหวัดศรีษะเกษ

ความสำคัญ
ปราสาทพระวิหารเป็นศาสนสถานแบบขอม สร้างขึ้นเพื่ออุทิศถวายแด่พระอิศวร โดยทราบได้จากศิลาจารึกที่ค้นพบที่ปราสาทแห่งนี้ ซึ่งขนานนามเทวาลัยแห่งนี้ว่า ศรีศิขรีศวร แปลได้ว่า เจ้าแห่งภูเขาคือพระอิศวร
กษัตริย์เขมรโปรดให้สถาปนาเทวาลัยแห่งเขาพระวิหารเพื่อให้เป็นที่สักการะและเป็นที่จาริกแสวงบุญของประชาชนในดินแดนเขมรสูง ซึ่งปัจจุบันเป็นจังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ และสุรินทร์ ตัวปราสาทหันหน้าไปทางทิศเหนือเพื่อต้อนรับประชาชนที่มาจากดินแดนดังกล่าว สระใหญ่คือสระตราวสร้างขึ้นบริเวณทางทิศเหนือ ไม่ห่างจากเชิงปราสาทมากนัก เพื่อให้ประชาชนหลายกลุ่มหลายเหล่าที่มาจากทางทิศเหนือสามารถใช้น้ำได้

อายุสมัย
ศาสนสถานแห่งนี้มีอายุเก่ากว่าปราสาทนครวัดในประเทศกัมพูชา ได้ค้นพบจารึกหลายหลักที่ทำให้สามารถกำหนดอายุได้ คือ
1. ศิลาจารึกภาษาสันสฤกต ศักราชตรงกับ พ.ศ.1436 รัชกาลพระเจ้ายโศวรมันที่ 1 แห่งอาณาจักรเขมร (พ.ศ.1432-1443)
2. จารึกภาษาสันสฤกตและภาษาขอมหลายแห่งบนประตูซุ้ม (โคปุระ) ที่3-4 อยู่ในรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ 1 (พ.ศ.1545-1593) ศักราชเหล่านี้อยู่ในระยะเวลาเดียวกับลวดลายเครื่องตกแต่งที่เห็นอยู่ในปัจจุบัน จึงอาจสันนิษฐานได้ว่าปราสาทพระวิหารที่ปรากฏให้เห็นอยู่ในปัจจุบันได้เริ่มสร้างในพุทธศตวรรษที่ 16
3. จารึกภาษาสันสฤกตและขอม ศักราชตรงกับ พ.ศ.1662 อยู่ในรัชกาลพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 (พ.ศ.1656-1688) ผู้สร้างปราสาทนครวัด แสดงให้เห็นว่ามีการก่อสร้างอาคารเพิ่มเติมและลวดลายบางชนิดในศิลปขอมแบบนครวัดได้ปรากฏที่ปราสาทพระวิหาร